ข้อมูลบริษัท
บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์ (Lifestyle) ที่มีความหลากหลาย ทันสมัย เน้นคุณภาพ ในราคาที่ย่อมเยาเป็นหลักภายใต้ชื่อทางการค้า
โดยสินค้าที่จำหน่ายส่วนใหญ่เป็นสินค้าภายใต้ตราสินค้าของบริษัทฯ ซึ่งมีการออกแบบเพื่อจำหน่ายในร้าน Moshi Moshi โดยเฉพาะ (Exclusive)
Moshi Moshi มีทั้งหมด 159 สาขา ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ 14 ธ.ค. 2567)
เครือข่ายสาขาของบริษัทฯ ซึ่งครอบคลุมทุกภูมิภาค
การขายสินค้าผ่านออนไลน์แพลตฟอร์ม (Online Platform) ที่เป็นที่นิยม ได้แก่ Shopee และ Lazada
ร้านป๊อปอัพ สโตร์ (Pop-up Store) ซึ่งเป็นร้านค้าที่จัดขึ้นชั่วคราวบริเวณพื้นที่ส่วนกลางของห้างสรรพสินค้า ที่บริษัทฯ ยังไม่มีสาขา
Our Milestones
2516
2530
2543
2559
2560
2561
2562
2563
2564
2565
2566
2567
2516
- กลุ่มครอบครัวฯ เริ่มประกอบธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าประเภทเครื่องเขียน สินค้ากิ๊ฟช็อป ภายใต้ชื่อร้านพร้อมภัณฑ์ ต่อมากลุ่มครอบครัวฯ เล็งเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจ จึงเริ่มจำหน่ายสินค้าที่มีการออกแบบโดยเฉพาะ และจำหน่ายสินค้านำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อจำหน่ายให้แก่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และร้านค้าต่างๆ
2530
- กลุ่มครอบครัวฯ ยังได้ขยายธุรกิจไปยังร้านค้าส่งแบบดั้งเดิมในตลาดสำเพ็ง โดยนำแนวคิดการตกแต่งร้านมา และยกระดับมาตรฐานร้านค้าให้เหมือนย่านค้าส่งในประเทศญี่ปุ่น ทำให้ร้านค้าส่งของกลุ่มครอบครัวฯ เป็นที่นิยม และแตกต่างจากร้านค้าอื่นๆ
2543
- กลุ่มครอบครัวฯ ก่อตั้งบริษัทฯ (เดิมชื่อบริษัท บีกิฟท์ จำกัด) ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท เพื่อดำเนินธุรกิจร้านค้าส่งแบบดั้งเดิม (Traditional Trade) ในตลาดสำเพ็ง
2559
- บริษัทฯ เล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจ จึงเริ่มประกอบธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์ (Lifestyle) ที่มีความหลากหลาย ทันสมัย และราคาย่อมเยา โดยเปิดสาขาแรกที่สำเพ็ง และเปิดสาขาร้าน Moshi ทั้งหมดรวม 4 สาขา
- จดทะเบียนเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท โมชิ โมชิ เจแปน จำกัด และเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 1 ล้านบาท เป็น 10 ล้านบาท
2560
- เปิดสาขาร้าน Moshi Moshi เพิ่มจำนวน 22 สาขา ส่งผลให้มีสาขาทั้งสิ้น 26 สาขา
- เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 10 ล้านบาท เป็น 200 ล้านบาท
2561
- เปิดสาขาร้าน Moshi Moshi เพิ่มจำนวน 31 สาขา ส่งผลให้มีสาขาทั้งสิ้น 57 สาขา
- เริ่มจำหน่ายสินค้าลิขสิทธิ์แท้ของ We Bare Bears
2562
- เปิดสาขาร้าน Moshi Moshi เพิ่มจำนวน 24 สาขา ส่งผลให้มีสาขาทั้งสิ้น 81 สาขา
2563
- เปิดสาขาร้าน Moshi Msohi เพิ่มจำนวน 10 สาขา และปิดสาขาจำนวน 1 สาขา เนื่องจากห้างสรรพสินค้าปิดทำการ ส่งผลให้มีสาขาทั้งสิ้น 90 สาขา
- เปิดสาขาร้าน GIANT จำนวน 1 สาขา ที่ห้างแพลตตินั่มแฟชั่นมอลล์ เพื่อประกอบธุรกิจร้านค้าปลีกแบบมีส่วนลดสินค้าทั่วไปที่เน้นการใช้งาน (Function) ในชีวิตประจำวัน
- ได้รับลิขสิทธิ์จาก Disney สำหรับคาแรคเตอร์ต่างๆ ได้แก่ Disney's Mickey & Friends, Disney's Winnie The Pooh, Pixar's Monster Inc, Disney's Tsum Tsum
- รับโอนกิจการทั้งหมด (Entire Business Transfer) จากบริษัท บีเอสเค แอสเซท จำกัด เพื่อรับโอนศูนย์กระจายสินค้า เพื่อวัตถุประสงค์ในการปรับโครงสร้างเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
2564
- เปิดสาขาร้าน Moshi Moshi เพิ่มจำนวน 5 สาขา และปิดสาขาจำนวน 1 สาขา ส่งผลให้มีสาขาทั้งสิ้น 94 สาขา
- ได้รับลิขสิทธิ์จาก ©2003 Peanuts Worldwide LLC สำหรับคาแรคเตอร์ SnoopyTM
- ได้รับลิขสิทธิ์จาก Sanrio สำหรับคาแรคเตอร์ Hello Kitty
2565
- ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 มีจำนวนสาขาร้าน Moshi รวมทั้งสิ้น 105 สาขา และสาขาร้าน GIANT จำนวน 1 สาขา บริษัทฯ ได้จดทะเบียนแปรสภาพจากบริษัทจำกัดเป็นบริษัทมหาชนจำกัด และเปลี่ยนชื่อจาก บริษัท โมชิ โมชิ เจแปน จำกัด เป็น บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2565
- เปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นสามัญของบริษัทฯ จากเดิมหุ้นละ 1,000 บาท เป็นหุ้นละ 1 บาท ส่งผลให้จำนวนหุ้นสามัญของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นจาก 225,000 หุ้น เป็น 225,000,000 หุ้น
- เพิ่มทุนจดทะเบียน จำนวน 75 ล้านบาท ส่งผลให้ทุนจดทะเบียนเพิ่มขึ้นจาก 225 ล้านบาท เป็น 300 ล้านบาท
- บริษัทฯ เข้าทำการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันแรก (First Trading Day) ในวันที่ 22 ธันวาคม 2565 ภายใต้ชื่อย่อ MOSHI โดยมี Market Capitalization ประมาณ 6,300 ล้านบาท (ณ ราคาเสนอขาย IPO)
2566
- ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 มีจำนวนสาขาร้าน Moshi รวมทั้งสิ้น 126 สาขา ร้าน GIANT จำนวน 1 สาขา ร้าน The OK Station จำนวน 1 สาขา และ ร้าน Garlic จำนวน 3 สาขา
- เข้าซื้อกิจการร้าน The OK Station ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายของขวัญและเครื่องเขียนขายส่งรายใหญ่ในสำเพ็ง ในเดือนเมษายน 2566
- เพิ่มทุนจดทะเบียน จำนวน 30 ล้านบาท ส่งผลให้ทุนจดทะเบียนเพิ่มขึ้นจาก 300 ล้านบาท เป็น 330 ล้านบาท
- เปิดตัวร้าน Garlic ที่จำหน่ายสินค้า Lifestyle ในดีไซน์แบบ Chic&Cool รวม 3 สาขาได้แก่ สาขาฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต สาขาเสริมไทยคอมเพล็กซ์ จ.มหาสารคาม และสาขาเมญ่า จ.เชียงใหม่
- วางตลาดสินค้าคอลเลคชั่นพิเศษ ที่ร่วมคอลแลปส์กับ 3 ครีเอเตอร์ไทย ได้แก่ STICKWITHME4EV, SSKTMMEE และ Monsty Planet
- ได้รับลิขสิทธิ์จาก Sanrio สำหรับคาแรคเตอร์ Cinnamoroll , My Melody และ Gudetama
- ได้รับลิขสิทธิ์จาก SM ENTERTAINMENT สำหรับพัฒนาสินค้า Collection คาแรคเตอร์ ศิลปิน K-POP ภายในค่าย
2567
- บริษัทฯ มีการเปิดสาขาเพิ่มจำนวน 34 สาขา และปิดสาขาจำนวน 1 สาขา ส่งผลให้มีสาขาร้าน Moshi Moshi รวมทั้งสิ้น 159 สาขา ร้าน GIANT จำนวน 1 สาขา ร้าน The OK Station จำนวน 1 สาขา และ ร้าน Garlic จำนวน 3 สาขา
- บริษัทฯ ได้พัฒนารูปแบบร้านใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนกุมภาพันธ์ 2567บริษัทได้เปิดตัวร้านรูปแบบใหม่โดยเปิดร้านสแตนด์อโลนแห่งแรกภายใต้แบรนด์ Moshi ที่อ. แม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 บริษัทฯ มีร้านค้าในรูปแบบสแตนด์อโลนจำนวน 5 สาขา
- บริษัท ทำสัญญากิจการร่วมค้ากับบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) โดย สัญญาฉบับนี้มีผลบังคับวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เพื่อร่วมดำเนินกิจการโครงการ “กิจการร่วมค้า โมชิ โมชิ แอนด์ อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ โปรเจ็ค ดีเวลลอปเม้นท์” โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดนิทรรศการ Hello Kitty Exhibition: Celebration of Friendship and Sario Characters the Funtastic Exhibition โดยบริษัทมีส่วนได้เสีย ร้อยละ 50 ในกิจการร่วมค้าดังกล่าว
- วางตลาดสินค้าคอลเลคชั่นพิเศษ ที่ร่วมคอลแลปส์กับ 2 ครีเอเตอร์ไทย ได้แก่ Butterclub และ Fluffy Omelet